เมื่อให้รังสีตกกระทบขนานกับเส้นแกนมุขสำคัญของกระจกเว้ารังสีสะท้อนจะพบกันที่จุดๆหนึ่งซึ่งอยู่หน้ากระจกและอยู่บนแกนมุขสำคัญห่างจากจุดยอดของกระจกเท่ากับครึ่งหนึ่งของรัศมีความโค้งของกระจก(R)จุดนี้เรียกว่าจุดโฟกัส(F)ระยะจากโฟกัสไปยังจุดยอดของกระจก(v)เรียกว่าความยาวโฟกัส ในทางกลับกันถ้าแสงออกจากโฟกัสไปกระทบกระจกเว้ารังสีสะท้อนขนานเส้นแกนมุขสำคัญออกไปในกรณีกระจกนูน เมื่อแสงขนานกระทบกระจก แสงจะกระจายออกไปถ้าต่อแนวของรังสีสะท้อนกลับไปพบกัน จะได้จุดตัดของรังสีสะท้อนหรือโฟกัสของกระจกนูนอยู่ด้านหลังของกระจกโดยมีความยาวโฟกัสเป็นครึ่งหนึ่งของรัศมีความโค้ง เช่นเดียวกับความยาวโฟกัสของกระจกเว้า    การหาตำแหน่งภาพของวัตถุที่วางหน้ากระจกเว้าสามารถทำได้โดยการลากเส้นรังสีของแสงตามกฎการสะท้อนของแสง เช่นเดียวกับกรณีของกระจกราบ
         
      หลักการที่ใช้ในการเขียนรูปมีดังนี้
      1.ลากรังสีตกกระทบจากปลายวัตถุถึงผิวกระจกให้ขนานกับเส้นแกนมุขสำคัญจะได้รังสีสะท้อนจากผิวกระจกผ่านโฟกัส
      2.ลากรังสีตกกระทบจากปลายวัตถุผ่านโฟกัสถึงผิวกระจกจะได้รังสีสะท้อนจากผิวกระจกขนานกับเส้นแกนมุขสำคัญ
      3.ตกกระทบจากปลายวัตถุผ่านจุดศูนย์กลางถึงผิวกระจกจะได้รังสีสะท้อนจากผิวกระจกย้อนกลับมาทางเดิม
  โดยการลากรังสีดังกล่าวจุดตัดของรังสีสะท้อนทั้ง 3 จะแสดงตำแหน่งและขนาดของภาพ

    

       ลองดูการเกิด ภาพจากกระจกโค้งเว้า ในกรณีต่างๆ