ประวัติของต้นปาล์ม
ปาล์ม
เป็นภาษาต่างประเทศที่นำมาใช้ทับศัพท์เรียกว่า ปาล์ม จนเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป
ปาล์ม..... ปลูกได้ในทุกฤดู ซึ่งสกุลของปาล์มจะมีประมาณ 4000 กว่าชนิด
ชนิดที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เช่น ปาล์มขวด ปาล์มน้ำมัน เป็นต้น
คนไทยส่วนใหญ่จึงคิดว่าต้นปาล์มเป็นพันธุ์ไม้ที่นำมาจากต่างประเทศเท่านั้น
ซึ่งอาจจะไม่ทราบ พืชที่อยู่ในวงศ์ PALMAE นั้นมีจำนวนมากในประเทศไทย
แต่คนไทยไม่ได้เรียกว่าปาล์ม เช่น มะพร้าว, ตาล, ลาน, หมาก, จาก,
กะพ้อ, ค้อ ฯลฯ ในขณะเดียวกันมีต้นไม้วงศ์ PLAMAE หลายชนิดที่นำเข้ามาปลูกในบ้านเราคนไทยจึงตั้งชื่อเรียกเป็นภาษาไทยเพื่อง่ายต่อการจดจำ
เช่น ตาลแดง (Latanialontaroides) ตาลฟ้า (Bismarckia nobikis)
หมากนวล (Veitchiamerrilli) มะพร้าวแคระ (Syagrus schizophylla)
ซึ่งต้นไม้ที่กล่าวมาล้วนเป็นพันธุ์ปาล์มทั้งสิ้น
ปาล์ม.....เป็นพันธุ์ไม้ตระกูลใหญ่มากตระกูลหนึ่งที่มนุษย์รู้จักและใช้ประโยชน์มากเป็นอันดับสองรองจากพืชตระกูลหญ้าจะเห็นได้จาก
ถ้าปีใดฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล หรือมีเห็นภัยต่าง ๆ เกิดขึ้น
คนโบราณจะพูดเสมอ ๆ ว่า ปีนี้ข้าวจะยากหมากจะแพง มนุษย์ในภาคพื้นเอเชียนั้นได้อาศัยผลประโยชน์จากส่วนต่างๆของปาล์มอย่างมากมายที่สุด
นับตั้งแต่อาหาร, ที่อยู่อาศัย, เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค
ดังนั้น ถ้ากล่าวคำว่า ปาล์ม
คือพืชในวงศ์ปาล์ม (Genus Paim) เป็นพืชที่มีลักษณะเด่นนำมาสรุปพอสังเขปได้ดังนี้
พันธุ์ไม้วงศ์ปาล์มเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ส่วนมากมีถิ่นกำเนิดในเขตร้อน
ปาล์มมีหลายชนิด้วยกัน บ้างเป็นพุ่ม บ้างเป็นต้น และเป็นไม้เลื้อย
เมล็ดเมื่องอก มีใบเลี้ยงเพียงใบเดียว ลำต้น มีเพียงยอดเดียว และไม่แตกต่างกิ่งก้านสาขา
มีใบขนาดใหญ่แผ่นใบรูปฝ่ามือหรือรูปขนนกมีกาบและก้านใบชัดเจนและใบมักออกเป็นกลุ่มใหม่
ที่ปลายยอดลำต้น ใบอ่อนในระยะแรกรวมกันเป็น แท่งยาวคล้ายฟักดาบ
ช่อดอกมีกาบหุ้ม การออกดอกในระยะแรกเรียกว่าแทงจั่น เมล็ดในระยะงอกส่วนของต้นอ่อนที่อยู่ภายในเมล็ดจะขยายโตขึ้น
เรียกว่า จาว ซึ่งเนื้อจะค่อยๆ
สลายไป
|
|