ดอกไม้ และ การเรียนรู้...

May 18, 2001


A lesson that I have got from all flowers that I received in my M.Phil graduation day.
ม้ร่างร่วงโรยลงดิน
หาใช่สิ้นไร้ความฝัน
ได้เรียนรู้เรื่องชีวัน
จึงพลันพบทางสดใส...

ลายวันก่อนฉันได้ดอกไม้มาหลายช่อ นำมาจัดเข้าแจกันได้หลายใบเอาไปวางไว้ตามมุมต่างๆ ตอนที่ได้มานั้นช่อกุหลาบสีเหลืองสวยเด่นเป็นสง่าและส่งกลิ่นหอมโรยรินน่ารักที่สุด พี่สาวใจดีคนที่ให้มาบอกว่าที่เลือกมาให้เพราะกลีบมันสวยเป็นพิเศษเป็นรูปสามเหลี่ยมอย่างแปลกตา ฉันจึงจัดไปไว้ในมุมสวยข้างกระจกห้องน้ำเพราะเป็นที่ๆ ฉันใช้ร่วมกับเพื่อนร่วมห้อง เพราะอยากให้เค้าได้รับรู้ถึงความสดใสของดอกไม้ช่อนี้ด้วย...
กุหลาบสีเหลืองแสนหรู
เชิดชูไว้อย่างวิไล
กลิ่นหอมโดดเด่นกว่าใคร
จึ่งได้รับความสำคัญ
ส่วนแจกันที่เหลือฉันจัดไว้ตามมุมต่างๆในห้อง จำได้ตอนที่รับมาจากน้องสาวใจดี เธอบอกว่าดอกไม้เหล่านี้มีกลิ่นหอมนัก เพียงแต่วันนั้นฉันได้ช่อกุหลาบช่อนั้นมาก่อนฉันจึงดมเท่าไหร่ก็ไม่ได้กลิ่นดอกไม้อื่นๆ

    เวลาผันผ่านเดินไป...
    หาสิ่งไหนคงอยู่เป็นนิรันดร์?...

องวันผ่านไป กลีบดอกกุหลาบสีเหลืองเริ่มร่วงโรย เหี่ยวเฉาคออ่อนคอพับ... กลิ่นหอมได้จางหายไปแล้ว ไม่ว่าจะให้อาหารดอกไม้หรือเปลี่ยนแจกันเท่าไหร่ก็ไม่อาจฟื้นคืนมา... ต่างกับดอกตูมสีแสดอันล่างสุดของอีกแจกันหนึ่งที่เพิ่งเริ่มบาน ฉันเพิ่งสังเกตุว่ามันคือช่อดอก ลิลลี่ พอเย็นวันนั้นดอกที่สองถัดขึ้นไปก็เริ่มบานขึ้นอีก วันรุ่งขึ้นดอกตูมทั้งห้าดอกก็บานกันหมดเหลื่อมล้ำตามลำดับตั้งแต่ดอกแรกแย้มจนถึงดอกบานเต็มที่ กลีบที่แผ่กว้างของลิลลี่เป็นอะไรที่พิเศษ ดูแข็งนอกแต่อ่อนใน สีสันสดใสรูปทรงเก๋แปลกตา ช่างดูแล้วงดงามยิ่งนัก...
ลิลลี่สีแสดแย้มกลีบ
ไม่รีบ ช้าช้า เติบใหญ่
เสร็จสิ้นงามสง่าเกินใคร
จึ่งได้รับความสำคัญ
ต่ดอกลิลลี่เป็นดอกไม้ที่แปลก คือพอบานแล้วก็เริ่มร่วงเร็วอย่างที่คาดไม่ถึง อาจเป็นเพราะถูกตัดมาวางไว้ในแจกันเช่นนี้ เพราะวันรุ่งขึ้นดอกที่บานเต็มที่ก็เริ่มโรย กลีบหลักๆ ที่ละกลีบรวมถึงก้านเกสรจนสุดท้าย คงเหลือแต่เพียงก้านให้เห็น... ตอนที่ฉันก้มลงเก็บกลีบลิลลี่ไปทิ้ง ฉันเพิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ข้างๆ เป็นช่ออะไรก็ไม่รู้สองช่อหน้าตาคล้ายดอกเยอบีร่าแต่ลักษณะเป็นกอคงไม่ใช่ เพราะเยอบีร่าต้องเป็นดอกเดี่ยวขึ้นสง่า ช่อแรกสีส้มอ่อน ช่อที่สองสีชมพูจางดูไม่โดดเด่นนัก ตอนที่ฉันรดน้ำก็ไม่ทันสังเกตุดีๆ ที่แท้แล้วเจ้าดอกนิรนามนี้มีกลิ่นหอมจาง หอมเย็นชื่นใจยิ่ง...
อกนิรนามวางเฉย
ไม่เคยเผยความสดใส
ที่แท้กลิ่นหอมเย็นใจ
จึ่งได้รับความสำคัญ
ากแต่กลิ่นหอมจางๆ ที่เคยโรยรินสม่ำเสมอก็พลันไม่สำคัญไป... เพียงเพราะดอกตูมๆ ที่ไม่เคยทำท่าว่าจะบานของช่อคาร์เนชั่นสีชมพูลายแดงที่ฉันแอบลุ้นอยู่ทุกวันว่า จะได้เห็นมันแย้มกลีบหรือเห็นมันร่วงโรยไปก่อนกันแน่เนื่องจากคงความตูมมานานมาก กลับเริ่มเผยกลีบบางๆแผ่ออกมาดูอย่างแบบบางน่ารักนัก ด้วยความที่ฉันชมชอบดอกคาร์เนชั่นที่สุดในบรรดาดอกไม้ทั้งหมดเป็นทุนเดิม เมื่อเห็นมันเริ่มเติบโต ก็เลยทุ่มเทเวลาดูแลรักษามันอย่างลำเอียง...
พียงคาร์เนชั่นแย้มบาน
รอนานแทบทนไม่ไหว
รักเจ้ามากกว่าดอกใด
จึ่งได้รับความสำคัญ
สุดท้ายวันนี้ ดอกคาร์เนชั่นก็ได้บานเต็มที่ดูสวยงามยิ่งนัก แต่ฉันเองก็ได้เห็นดอกต่างๆ ร่วงโรยไปมากมายและตระหนักดีว่าอีกไม่นาน ดอกบานเต็มที่ของคาร์เนชั่นช่อนี้ก็คงจะร่วงโรย... ตามธรรมชาติเฉกเช่นเดียวกัน... พอพิจารณาดีๆ ก็เพิ่งสังเกตุเห็นเจ้าดอกขาวๆ เล็กๆ ที่แอบอยู่ข้างหลังแจกันทุกใบ... เจ้าดอกหญ้าเล็กๆ ที่ถูกเก็บมาแซมเพื่อความงามพิเศษ ฉันเพิ่งนึกได้ว่ามันบานเล็กๆ สีขาวอย่างนี้ตั้งแต่วันแรกที่ฉันได้มาจนถึงวันนี้... สมเป็นดอกหญ้า ทนทานและช่างไม่รังเกียจที่จะอยู่เพื่อส่งเสริมให้ดอกอื่นๆ โดดเด่นขึ้นมาเวลามีเจ้าไปประดับร่วมกัน...
อกหญ้าเจียมเนื้อเจียมตัว
ไม่กลัวไม่อยากยิ่งใหญ่
ขอแค่คงอยู่ต่อไป
มิได้รับความสำคัญ
สุดท้าย... ดอกไม้ทุกช่อ ที่โดดเด่นก็จะเหี่ยวแห้งและร่วงโรย ที่น่าแปลกที่สุดคือดอกหญ้าเช่นนี้เพียงแค่แห้งไป แต่ยังคงรูปสวยเป็นแฉกๆ เล็กๆ น้อยๆ อย่างงามตา อย่างที่ใครๆ ชอบนำไปทับในหนังสือแล้วเก็บไปทำการ์ดอวยพรส่งหากัน...

o เรื่องราวของมวลดอกไม้
มากมายเกินเคยคาดฝัน
สะท้อนภาพความสำคัญ
ผกผันแปรเปลี่ยนเรื่อยไป
o เปรียบเช่นเฉกชีวิตคน
วังวนวุ่นวายหาไม่
เรียนรู้ตามดูเข้าใจ
จึงได้ พบความ สำคัญ

-- ไร้นาม (นามปากกา)
o หากไร้ค่าวัดเพียงแค่ไร้คู่
เหมือนไร้รู้ถึงชีวิตที่ยิ่งใหญ่
เกิดเป็นคนไร้รักก็หักใจ
แต่มิใช่ไร้ตัวตนที่งดงาม...

o หากเราเห็นเราเองไร้ความหมาย
แล้วสุดท้ายใครนับถือ ฉันขอถาม?
แค่พิษรักปักใจ เพียงชั่วยาม
ไร้รูปนามแล้วหรือ ลองตรองดู

-- ไร้นาม

Back to some more words | the main page
Copyright ฉ 2001 by Panit Watcharawitch. All right reserved.