ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก
ฉบับเดิม
๑ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง วัจจะ โส ภะคะวาฯ อิติปิ โส ภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ วัจจะ โส ภะคะวาฯ อิติปิ โส ภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน วิจจะ โส ภะคะวาฯ อิติปิ โส ภะคะวา สุคะโต วัจจะ โส ภะคะวาฯ อิติปิ โส ภะคะวา โลกะวิทู วัจจะ โส ภะคะวาฯ
๒ อะระหังตัง สะระณัง คัจฉามิ อะระหันตัง สิระสา นะมามิ สัมมาสัมพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ สัมมาสัมพุทธัง สิระสา นะมานิ วิชชาจะระณะสัมปันนัง สะระณัง คัจฉามิ วิชชาจะระณะสัมปันนัง สิระสา นะมามิ สุคะตัง สะระณัง คัจฉามิ สุคะตัง สิระ สา นะมามิ โลกะวิทัง สะระณัง คัจฉามิ โลกะวิทัง สิระสา นะมามิ
๓ อิติปิ โส ภะคะวา อะนุตตะโร วัจจะ โส ภะคะวาฯ อิติปิ โส ภะคะวา ปุริสะทัมมะสาระถิ วิจจะ โส ภะคะวาฯ อิติปิ โส ภะคะวา สัตถา เทวะมะนุสสานัง วัจจะ โส ภะคะวาฯ อิติปิ โส ภะคะวา พุทโธ วัจจะ โส ภะคะวาฯ
๔ อะนุตตะรัง สะระณัง คัจฉามิ อะนุตตะรัง สิระสา นะมามิ ปุริสะทัมมะสาระถิ สะระณัง คัจฉามิ ปุริสะทัมมะสาระถิ สิระสา นะมามิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง สะระณัง คัจฉามิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง สิระสา นะมามิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ พุทธัง สิระสา นะมามิ อิติปิ โส ภะคะวาฯ
๕ อิติปิ โส ภะคะวา รูปะขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมิ จะ สัมปันโน อิติปิ โส ภะคะวา เวทะนาขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมิ จะ สัมปันโน อิติปิ โส ภะคะวา สัญญาขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมิ จะ สัมปันโน อิติปิ โส ภะคะวา สังขาระขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมิ จะ สัมปันโน อิติปิ โส ภะคะวา วิญญาณะขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมิ จะ สัมปันโน
๖ อิติปิ โส ภะคะวา ปะฐะวี ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา อาโป ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา เตโช ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวะ วาโย ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา อากาสะ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา วิญญานะ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา จักกะวาฬะ ธาตุ สัมมาทินายนะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา จาตุมะหาราชิกา ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา ตาวะติงสา ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ
๗ อิติปิ โส ภะคะวา ยามา ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา ตุสิตา ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา นิมมานะระตี ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา ปะระนิมมิตะวะสะวัตตี ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา กามาวะจะระ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา รูปาวะจะระ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา อะรูปาวะจะระ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา โลกุตตะระ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ
๘ อิติปิ โส ภะคะวา ปะฐะมะฌานะ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา ทุติยะฌานะ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา ตะติยะฌานะ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา จะตุตถะฌานะ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา ปัญจะมะฌานะ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ
๙ อิติปิ โส ภะคะวา อากาสานัญจายะตะนะ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา วิญญานัญจายะตะนะ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา อากิญจัญญายะตะนะ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา เนวะสัญญานาสัญญายะตะนะ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ
๑๐ อิติปิ โส ภะคะวา โสตาปะฏิมัคคะ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา สะกิทาคามิมัคคะ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัตตะมัคคะ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ
๑๑ อิติปิ โส ภะคะวา โสตาปะฏิผะละ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา สะกิทาคามิผะละ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา อะนาคามิผะละ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัตตะผะละ ธาตุ สัมมาทิยานะสัมปันโนฯ
๑๒ กุสะลา ธัมมา อิติปิ โส ภะคะวา อะอา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ชัมภูทีปัญจะ อิสระโร กุสะลา ธัมมา นะโม พุทธายะ นะโม ธัมมายะ นะโม สังฆายะฯ ปัญจะพุทธา นะมามิหัง อาปามะ จุปะ ฑีมะสังอังขุ สังวิธาปุกะยะปะ อุปะสะชะสุ เหปาสายะ โสโสสะสะ อะอะอะอะนิ เตชะสุเนมะ ภูจะนาวิเว อะสังวิสุโล ปุสะ พุภะ อิสะวาสุ สุสะวาอิ กุสะลา ธัมมา จิตติ วิอัตถิฯ
๑๓ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง อะอา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ สาโพธิปัญจะ อิสสะโร ธัมมาฯ
๑๔ กุสะลา ธัมมา นันทะวิวังโก อิติ สัมมาสัมพุทโธ สุคะลาโน ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิฯ จาตุมะหาราชิกา อิสสะโร กุสะลา ธัมมา อิติ วิชชาจาระณะสัมปันโน อุอุ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตาวะติงสา อิสสะโร กุสะลา ธัมมา นันทะปัญจะสุคะโต โลกะวิทู มะหาเอโอ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิฯ ยามา อิสสะโร กุสะลา ธัมมา พรหมมา สัททะ ปัญจะ สัตตะ สัตตา ปาระมี อะนุตตะโร ยะมะกะขะ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิฯ
๑๕ ตุสิตา อิสสะโร กุสะลา ธัมมา ปุยะปะกะ ปุริสะทัมมะสาระถิ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิฯ
๑๖ นิมมานะระติ อิสสะโร กุสะลา ธัมมา เหตุโปวะ สัตถา เทวะมนุสสานัง ตะถา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิฯ
๑๗ ปะระนิมมิตตะวะสะวัตตี อิสสะโร กุสะลา ธัมมา สังขาระขันโธ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ พุทธะปะผะ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิฯ
๑๘ พรหมมา อิสสะโร กุสะลา ธัมมา นัตถิปัจจะยา วินะปัญจะ ภะคะวาตา ยาวะนิพพานนัง สะระณัง คัจฉามิฯ นะโม พุทธัสสะ นะโม ธัมมัสสะ นะโม สังฆัสสะ พุทธิลาโภกะลา กะระ กะนา เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ
๑๙ นะโม พุทธัสสะ นะโม ธัมมัสสะ นะโม สังฆัสสะ วิตติ วิตติ วิตติ มิตติ มิตติ มิตติ จิตติ จิตติ วัตติ วัตติ ยะมะสุ สุวัตถิ โหนตุ หุลู หุลู หุลู สะวาหายะฯ
๒๐ อินทะสาวัง มะหาอินทะสาวัง พรหมสาวัง มะหาพรหมสาวัง จักกะวัตติสาวัง มะหาจักกะวัตติสาวัง เทวาสาวัง มะหาเทวาสาวัง อีสีสาวัง มะหาอิสีสาวัง มุนีสาวัง มะหามุนีสาวัง สัปปุริสะสาวัง มหาสัปปุริสะสาวัง พุทธะสาวัง ปัจเจกะพุทธะสาวัง อะระหัตตะสาวัง สัพพะ สิทธิ วิชชาธาระณังสาวัง สัพพะ โลกา อิริยานังสาวัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุฯ
๒๑ สาวัง คุณังวะชะพะลัง เตชัง วิริยัง สิทธิ กัมมัง นิพพานัง โมกขัง คุยหะกัง ทานัง สีลัง ปัญญา นิกขัง ปุญญัง ภาคะยัง ตัปปัง สุขัง สิริ รูปัง จะตุวีสะติเทสะนัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ หุลู หุลู หุลู สะวาหายะฯ
๒๒ นะโม พุทธัสสะ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ นะโม อิติปิ โส ภะคะวาฯ
๒๓ นะโม ธัมมัสสะ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ นะโม สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโมฯ
๒๔ นะโม สังฆัสสะ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโต เวทะนาขันโธ สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ นะโม สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สะวะกะสังโฆ วาหะปะริตตังฯ
๒๕ นะโม พุทธายะ มะอะอุ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา ยาวะตัสสะ หาโย โมนะ อุอะมะ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา อุอะมะอะ วันทา นะโม พุทธายะ นะอะ กะติ นิสะระณะ อาระปะขุทธัง มะอะอุ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตาฯ

วิปัสสิต
สัพพะทุกขา สัพพะภะยา สัพพะโรคา วินาศสันตุ

อานิสงส์การสวดภาวนา
ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก
            ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก เป็นพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ไว้สำหรับสวดภาวนาทุกเช้าค่ำ เพื่อความสวัสดีเป็นสิริมงคลแก่ผู้สาธยาย อันเป็นบ่อเกิด มหาเตชัง มีเดชมาก มหานุภารัง มีอานุภาพมาก และมีลาภยศ สุขสรรเสริญ ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย อุปัทวันตรายและความพินาศทั้งปวง ตลอดทั้งหมู่มารร้าย และศัตรูคู่อาฆาตไม่อาจแผ้วพาลได้
            อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง เป็นต้น ถ้าสาธยายหรือภาวนาแล้วจะนำมาซึ่งลาภยศ สุขสรรเสริญ และปราศจากอันตรายทั้งปวง ตลอดทั้งเป็นการระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า เป็นการเจริญพระพุทธานุสติวิปัสสนากัมมัฏฐาน เป็นแดนเกิดของสมาธิอีกด้วย
            อะระหันตัง สะระณัง คัจฉามิ เป็นต้น เมื่อสาธยายหรือภาวนาแล้ว เป็นการมอบกายถวายชีวิตไว้กับองค์พระพุทธเจ้าหรือเอาองค์พระพุทธเจ้าเป็นตาข่ายเพชรคอยปกป้อง คุ้มครองรักษาชีวิตให้ปราศจากเวรภัย
            อิติปิ โส ภะคะวา รูปะขันโธ เป็นต้น เมื่อสาธยายหรือภาวนาแล้ว ขออาราธนาบารมีธรรมของพระพุทธองค์สิงสถิตในเบญจขันธ์ของเรา เพื่อให้เกิดพระไตรลักษณาญาน อันเป็นทางของพระนิพพานสืบต่อไป
            อิติปิ โส ภะคะวา ปะฐะวีธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน เป็นต้น เมื่อสาธยายหรือภาวนา ขออำนาจสมาธิญาณของพระพุทธองค์เป็นไปในธาตุ ในจักรวาล ในเทวโลก หรือในกามาวจรภูมิ รูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และในโลกุตตรภูมิ ขอจงมาบังเกิดในขันธ์สันดานของข้าพเจ้า หรือเรียกว่าเป็นการเจริญสมถภาวนา อันเป็นบ่อเกิดแห่งรูปฌาน อรูปฌาน อภิญญา เป็นการเจริญวิปัสสนา อันเป็นบ่อเกิดแห่งมรรคผลนิพพาน เป็นการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงฯ
            กุสะลา ธัมมา อิติปิ โส ภะคะวา เป็นต้น เป็นการสาธยายหัวใจพระวินัยปิฏก หัวใจพระสุตตันตปิฏก หัวใจพระอภิธรรมปิฎก และเป็นหัวใจพระเจ้า ๕๐๐ ชาติ พระเจ้า ๑๐ ชาติ และหัวใจอิติปิโส ตลอดทั้งหัวใจอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก เมื่อภาวนาแล้วจะนำลาภ ยศฐาบรรดาศักดิ์ ทั้ง อายุ วรรณะ สุขะ พละ และจะป้องกันสรรพภัยต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความสวัสดิ์มงคลแก่ตนและบุตรหลานสืบไป
            อินทะสาวัง มหาอินทะสาวัง เป็นต้น เป็นการตั้งสัจจะเอาคุณแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ เป็นต้น ขอจงมาบันดาลให้เกิดความสวัสดีเป็นสิริมงคลด้วยอำนาจแห่งคุณธรรม ซึ่งมีพลังอันได้แก่ความสวัสดีเป็นสิริมงคลด้วยอำนาจแห่งคุณธรรม ซึ่งมีพลังอันได้แก่ความเพียร ขอให้การงานจงสัมฤทธิ์ผล ขอให้ถึงซึ่งพระนิพพาน ความหลุดพ้น ด้วยอำนาจแห่งทาน ศีล และปัญญาอันเฉียบคม ขอให้บุญจงบันดาลให้เป็นผู้มีตบะ ประสบแต่ความสุขด้วยสัจจะนี้ ขอความสวัสดีจงมีเมื่อสาธยายและภาวนาแล้วย่อมทำให้มีอำนาจ ตบะ เดชะ ความสุข ความเจริญรุ่งเรืองทุกประการ
            นะโม พุทธัสสะ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา เป็นต้น เป็นการขออาราธนาบารมีแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย ขอให้มาสถิตประดิษฐานในเบญจขันธ์ของเรา เพื่อให้เกิดพระไตรลักษณญาณอันจะเป็นทางไปสู่พระนิพพาน
            นะโม พุทธายะ มะอะอุ เป็นต้น เป็นการนอบน้อมต่อพระพุทธเจ้าผู้ทรงแสดงให้เห็นถึงสัจธรรมความจริง กล่าวคือ ความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ (ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้) และความไม่มีตัวตน
            พระอริยสงฆ์เจ้าทั้งหลายต่างก็กล่าวเน้นว่า พระพุทธศาสนาเป็นของจริงของแท้ที่เรายึดมั่นเป็นหลักชัยแห่งชีวิตได้ ยิ่งมีการปฏิบัติธรรมทั้งทาน ศีล ภาวนา สม่ำเสมอ ความสุข ความเจริญ เกิดขึ้นแก่ตนแน่อย่าสงสัย การรวยทรัพย์สินเงินทองไม่ได้ก่ออานิสงส์ ไม่เท่ากับรวยบุญรวยกุศล ซึ่งจะบังเกิดความสุขความเจริญในปัจจุบัน และตามติดวิญญาณไปทุกภพทุกชาติด้วย
            ฉะนั้น ชาวพุทธทั้งหลายจงเจริญภาวนา ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกทุกเช้าค่ำเถิด จะบังเกิดความสวัสดีมงคลแก่ตนและครอบครัว ให้มีความร่วมเย็นเป็นสุขโดยทั่วหน้า
            เมื่อท่านเจริญภาวนายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกแล้ว หากเจริญวิปัสสนาสมาธิต่อ จะได้อานิสงส์สูงมาก