JavaScript is disabled. Get Netscape 3.0 or turn it on!
a.การเปลี่ยนความถี่เมื่อเปลี่ยนตัวกลาง b.การเปลี่ยนความยาวคลื่นเมื่อเปลี่ยนตัวกลาง c.การเปลี่ยนพลังงานเมื่อเปลี่ยนตัวกลาง d.การเปลี่ยนความเร็วเมื่อเปลี่ยนตัวกลาง
2.การหักเหแสงถือว่าปริมาณใดไม่เปลี่ยนแปลง
a.พลังงาน b.ความถี่ c.ความยาวคลื่น d.อัตราเร็ว
3.ข้อใดหมายถึงกฎการหักเหของแสง
a.รังสีตกกระทบ เส้นแนวฉาก และรังสีหักเห อยู่บนระนาบเดียวกัน b.สำหรับตัวกลางคู่หนึ่งๆ อัตราส่วนระหว่างค่าไซน์ของมุมตกกระทบ ในตัวกลางหนึ่งกับค่าไซน์ของมุมหักเหในอีกตัวกลางหนึ่ง มีค่าคงตัวเสมอ และเรียกค่าคงตัวนี้ว่า ดรรชนีหักเหของวัตถุเทียบตัวกลางที่แสงตกกระทบ c.ดรรชนีหักเหของแสงของวัตถุต่างชนิดกันย่อมมีค่าไม่เท่ากัน d.ข้อ a และ b
4.ถ้าแสงเดินทางจากตัวกลางที่มีค่าดรรชนีหักเหน้อยไปตัวกลางที่มีดรรชนีหักเหมาก โดยแนวทางเดินแสงตกไม่ตั้งฉากกับผิวรอยต่อระหว่างตัวกลาง ข้อใดกล่าวถูกต้อง
a.รังสีหักเหจะเบนเข้าหาเส้นแนวฉาก b.รังสีหักเหจะเบนออกจากเส้นแนวฉาก c.รังสีหักเหจะตั้งฉากกับผิวรอยต่อระหว่างตัวกลาง d.แสงจะสะท้อนกลับหมด
5.ข้อใดหมายถึงมุมวิกฤต
a.มุมตกกระทบที่พอดีทำให้มุมหักเหในตัวกลางที่สองมีค่า 90 องศา b.มุมตกกระทบที่พอดีทำให้แสงสะท้อนกลับหมด c.มุมหักเหที่มีค่า 90 องศา d.มุมหักเหที่พอดีทำให้มุมตกกระทบมีค่า 90 องศา
6.ถ้ามุมตกกระทบมีค่ามากกว่ามุมวิกฤต ข้อใดกล่าวถูกต้อง
a.แสงจะหักเหทั้งหมด โดยไม่มีการสะท้อน b.แสงจะไม่หักเห แต่จะมีการสะท้อนกลับหมด c.แสงจะหักเห โดยไม่มีการเปลี่ยนแนวทางเดิน d.แสงจะหักเหทำมุม 90 องศา กับเส้นแนวฉาก
7.จะเกิดมุมวิกฤต หรือปรากฎการณ์สะท้อนกลับหมดได้ แสงจะต้องเดินทางตามข้อใด
a.ดรรชนีหักเหน้อยไปดรรชนีหักเหมาก โดยแนวทางเดินของแสงไม่ตั้งฉากกับผิวรอยต่อระหว่างตัวกลาง b.ดรรชนีหักเหมากไปดรรชนีหักเหน้อย โดยแนวทางเดินของแสงจะต้องตั้งฉากกับผิวรอยต่อระหว่างตัวกลาง c.ดรรชนีหักเหน้อยไปดรรชนีหักเหมาก โดยแนวทางเดินของแสงไม่ตั้งฉากกับผิวรอยต่อระหว่างตัวกลาง d.ดรรชนีหักเหน้อยไปดรรชนีหักเหมาก โดยแนวทางเดินของแสงจะต้องตั้งฉากกับผิวรอยต่อระหว่างตัวกลาง
8.การนำเส้นใยนำแสงไปใช้ประโยชน์ทางด้านต่างๆ อาศัยหลักการใดของแสง
a.การหักเหของแสง b.การสะท้อนกลับหมดของแสง c.การเลี้ยวเบนของแสง d.การแทรกสอดของแสง
9.เมื่อผู้สังเกตอยู่ในตัวกลางหนึ่ง มองดูวัตถุที่อยู่ในอีกตัวกลางหนึ่ง ปรากฎว่าภาพของวัตถุมีความลึกเปลี่ยนไป ทั้งนี้เป็นผลมาจากสมบัติข้อใดของแสง
a.การสะท้อนแสง b.การหักเหของแสง c.การแทรกสอดของแสง d.การเลี้ยวเบนของแสง
10.ข้อใดกล่าวถูกต้อง
a. ถ้าผู้สังเกตอยู่ในตัวกลางที่มีดรรชนีหักเหน้อย และวัตถุอยู่ในตัวกลางที่มีดรรชนีหักเหมาก กรณีมองตรงๆ ความลึกปรากฎจะมากกว่ากรณีมองแนวเฉียง b.ถ้าผู้สังเกตอยู่ในตัวกลางที่มีดรรชนีหักเหมาก และวัตถุอยู่ในตัวกลางที่มีดรรชนีหักเหน้อย กรณีมองตรงๆ ความลึกปรากฎจะน้อยกว่ากรณีมองแนวเฉียง c.ระยะห่างระหว่างตัวผู้สังเกตกับผิวรอยต่อระหว่างตัวกลาง ไม่มีผลต่อการเกิดความลึกปรากฎ d.ถูกทุกข้อ
11.ถ้านำเลนส์นูนหรือเลนส์เว้าไปวางไว้ในน้ำ (น้ำมีดรรชนีหักเหมากกว่าอากาศ)ความยาวโฟกัสของเลนส์จะเปลี่ยนแปลงอย่างไรเมื่อเทียบกับอากาศ
a.ความยาวโฟกัสเพิ่มขึ้น b.ความยาวโฟกัสลดลง c.ความยาวโฟกัสเท่าเดิม d.ยังสรุปไม่ได้
12.กฎการหักเหของแสงใช้กับผิวรอยต่อลักษณะใด
a.ผิวระนาบ b.ผิวโค้งนูน c.ผิวโค้งเว้า d.ถูกทุกข้อ