MENU
แนะนำรายวิชา
วิธีการเรียน
กิจกรรมการเรียน
ทรัพยากรการเรียน
แบบฝึกหัด
คณะผู้สอน
ติดต่อผู้สอน
   
SITE
 
 
   
 
มารยาทสังคม
 
                  อัจฉรา นวจินดา
   
 
   
      บุคลิกภาพของบุคคลนอกจากจะแสดงออกทางการแต่งกายแล้ว ยังสามารถเห็นได้โดยท่วงที
กริยามารยาทอีกด้วย บุคคลที่มีกริยามารยาทดีจะมีโอกาสได้รับความนิยมชมชอบและ
ชื่นชมจากบุคคลรอบข้าง
   
 
   
  ความสำคัญของมารยาท
   
    คำว่ามารยาทหมายถึงกริยาวาจาที่เรียบร้อย เทียบกับคำภาษาอังกฤษได้ว่า Ettiquette ซึ่งหมายรวมถึง
การแสดงออกทางกาย วาจาและใจ ถ้าไปในทางที่สุภาพเรียบร้อย ก็ถือว่ามีมารยาทดี การมีมารยาทดี
ีเปรียบเสมือนมีอาภรณ์ประดับกายที่งดงาม เป็นที่ชื่นชนและยอมรับของบุคคลรอบข้าง ผู้ที่มีมารยาทดี
มักประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงาน เนื่องจากได้รับการยอมรับและเชื่อถือทางสังคม
การมีมารยาทดีจึงเปรียบเสมือนในเบิกทางไปสู่ความสำเร็จ บุคคลทั่วไปจึงควรเรียนรู้ความมีมารยาท
เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข
   
 
   
  มารยาททางกาย
   
     ได้แก่การแสดงออกทางกายที่ผู้อื่นสามารถมองเห็นได้เช่นการยืน การเดิน การนั่ง การทำความเคารพ
และเคลื่อนไหวร่างกาย
   
  การยืนต่อหน้าผู้ใหญ่หรือเฉพาะพระพักตร์ควรยืนตรง ขาชิด ส้นเท้าชิด ปลายเท้าห่างกันได้
มือควรปล่อยตรงไว้ด้านข้างหรือประสานกันไว้
   
  การเดินกับผู้ใหญ่ควรเดินเยื้องหลัง อย่าก้าวล้ำหน้า แกว่งแขนตามสบาย ถ้าเป็นการเดินในขบวนพิธี
ให้เดินแบบสุภาพสำรวม ไม่พูดคุยโดยไม่มีความจำเป็น การเดินผ่านผู้ใหญ่ควรค้อมตัวลง
แต่ถ้าผู้ใหญ่นั่งอยู่กับพื้นให้คลานผ่านไป แต่ถ้าผู้ใหญ่นั่งบนเก้าอี้ให้ใช้การคุกเข่าแล้วเดินเข่าผ่านไป
   
  การนั่งเก้าอี้ต่อหน้าผู้ใหญ่ ควรสำรวมนั่งตัวตรง ไม่พิงพนัก มือวางประสานกัน ปลายเท้าเผยเล็กน้อย
   
  การลุกจากเก้าอี้ ให้ย่อตัวขึ้นแล้วเอี้ยวตัวจับพนักเก้าอี้เลื่อนไปด้านหลังแล้วจึงลุกขึ้น
อย่าใช้ขาดันเก้าอี้ไปด้านหลัง
   
      การแสดงความเคารพด้วยการไหว้ จะมีอยู่ด้วยกันหลายแบบและหลายระดับ ดังนั้นจึงควร
รู้จักเลือกใช้ให้ถูกต้อง เช่นการไหว้พระ ควรพนมมือให้นิ้วหัวแม่มือจรดคิ้วและปลายนิ้วชี้
แนบหน้าผากจรดตีนผมแล้วค้อมตัวลงส่วนหญิงย่อตัวลง ส่วนการไหว้ผู้ใหญ่ให้ปลายนิ้วหัวแม่มือจรด
ปลายจมูกและปลายนิ้วชี้จรดคิ้วแล้วค้อมตัวลงส่วนหญิงย่อตัวลง การไหว้ผู้มีฐานะเสมอกันใช้การ
ประนมมือให้นิ้วหัวแม่มือจรดปลายคาง ปลายนี้วชี้จรดปลายจมูกไม่ต้องค้อมตัวและย่อตัว ส่วนการรับไหว้นั้นถ้ารับไหว้ผู้มีอายุน้อยกว่าให้ประนมมืออยู่ระดับอกให้ปลายนิ้วชี้อยู่ตรงปลายคาง
แล้วก้มหน้าเล็กน้อย
   
  การแสดงความเคารพด้วยการกราบ การกราบสามารถทำได้ทั้งขณะนั่งและขณะยืน เช่นการกราบ
พระพุทธรูปหรือพระภิกษุ ต้องให้ใบหน้าก้มลงแตะหลังมือที่แบคว่ำลงบนพื้นหรือฐานรองรับ
การกราบฆราวาสที่มีเกียรติสูงให้ใบหน้าก้มแตะสันมือที่ฐานรองรับ การกราบเบญจางคประดิษฐ์
ต้องให้หน้าผาก มือ เข่า จรดพื้น ด้วยการนั่งคุกเข่าปลายเท้าตั้ง ประนมมือระดับอก แล้วก้มลงกราบ
ให้หน้าผากจรดพื้นโดยแบมือออก
   
  การแสดงความเคารพด้วยการกราบถวายบังคมเป็นการแสดงความเคารพต่อบูรพกษัตริย์ทั้งในโอกาส
ที่เป็นพิธีการและไม่เป็นพิธีการ เริ่มด้วยกราบการนั่งประนมมือคุกเข่ากราบมือตั้งหนึ่งครั้ง จากนั้น
ประนมมือไว้ที่อก เหยียดแขนตรงออกไปเบื้องหน้าระดับอก ศีรษะโน้มลงขนานกับแขน
ตัวโน้มไปตามไปตามศีรษะ วาดวงแขนให้นิ้วหัวแม่มือที่ประนมอยู่มาจรดกลางหน้าผากที่เงย
ขึ้นจนหงาย ลำตัวเอนไปเบื้องหลังเล็กน้อย แล้ววาดวงแขนกลับมาประนมมือที่อกลำตัวตั้งตรง
ทำจนครบสามครั้ง
   
  การแสดงความเคารพผู้เสียชีวิต ในลำดับแรกกราบพระพุทธรูปด้วยท่าเบญจางคประดิษฐ์สามครั้ง
แล้วหันมากราบศพโดยนั่งพับเพียบหรือนั่งราบแล้วกราบให้สันมือตั้งหนึ่งครั้ง
   
 
  มารยาทในการเคลื่อนไหว
     ก็คือกริยาอาการ อริยาบถการเคลื่อนไหวของร่างกายส่วนต่างๆ ซึ่งจะต้องมีความสำรวมไม่เป็นการ
รบกวนหรือก่อความรำคาญให้กับผู้อื่น เช่นการโยกตัวไปมาขณะชมการแสดง การรับส่งสิ่งของ
ผ่านหน้าผู้อื่น การใช้เท้าแกว่งไปมาต่อหน้าผู้อื่น
   
  มารยาททางกายเฉพาะด้าน
     คือการแสดงออกทางกายที่เป็นความสุภาพ เช่น การยืนตรงเคารพธงชาติ หรือยืนตรงเมื่อ
ได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี การยืนตรงให้เกียรติเมื่อประธานเดินเข้าห้องประชุม การเคาะ
ประตูก่อนเข้าห้องผู้อื่น ควรนั่งเมื่อได้รับการเชื้อเชิญ การไม่เปิดปิดประตูเสียงดัง
การเสียสละให้สุภาพสตรี เด็ก และคนชราเข้าลิฟท์หรือขึ้นรถก่อน การล้วง แคะ แกะ เการ่างกาย
ต่อหน้าสาธารณชน การไม่สูบบุหรี่ในที่สาธารณะ
   
 
  มารยาททางวาจา
     มารยาททางวาจาก็คือบุลิกภาพที่ปรากฏในสังคมที่เกี่ยวกับการใช้ถ้อยคำสำเนียงต่อบุคคลทั่วไป
เช่นการใช้ถ้อยคำที่สุภาพ ไม่พูดเหยียดหยามผู้อื่น การใช้ว่าคำว่ากรุณาเมื่อต้องการความ
ช่วยเหลือจากผู้อื่น การกล่าวคำขอโทษเมื่อทำผิดพลาด การกล่าวคำขอบคุณเมื่อได้รับความช่วยเหลือ
ไม่ส่งเสียงดังก่อความรำคาญ ไม่พูดจาโอ้อวดตนเอง ใช้สำเนียงการพูดที่นุ่มนวลเป็นกันเอง
ฝึกใช้คำราชาศัพท์และใช้เมื่อโอกาสเหมาะสม
   
 
  มารยาทในการแนะนำ
      การแนะนำตัวและการแนะนำให้ผู้อื่นรู้จักกันถือเป็นมารยาททางสังคมแบบหนึ่ง ดังนั้นจึงควรทราบ
วิธีการแนะนำที่เหมาะสม เช่น เมื่อต้องการแนะนำบุรุษแก่สตรีที่มีวัยอาวุโสใกล้เคียงกัน ควรใช้ว่า
คุณคัทลิยาคะ อนุญาตให้ดิฉันแนะนำ ร้อยตำรวจโทพิชิต ปราบไพรพาล สารวัตรประจำสถานี
ตำรวจบางเขน แก่คุณคะ และแนะนำให้ฝ่ายบุรุษรู้จักฝ่ายสตรี คุณคัทลิยา ราชาวดี ประชาสัมพันธ์
์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
   
  การแนะนำสตรีต่อสตรี การแนะนำบุคคลเพศเดียวกันให้รู้จักกัน ต้องยึดถือความอาวุโสเป็นสำคัญ
เช่นแนะนำเพื่อนให้รู้จักมารดา จะต้องแนะนำว่า เจี๊ยบจ๋า นี่คุณแม่ของเรา จากนั้นจึงแนะนำให้คุณแม่รู้จัก
เจี๊ยบว่าเป็นเพื่อนที่มหาวิทยาลัย คือแนะนำให้ผู้น้อยรู้จักผู้ใหญ่ก่อน
   
  การแนะนำบุรุษแก่บุรุษ ก็ใช้หลักการเดียวกันคือแนะนำให้ผู้น้อยรู้จักผู้ใหญ่ก่อน หรือถ้าอายุใกล้เคียงกัน
ก็แนะนำกลางๆเช่น ขออนุญาตแนะนำให้คุณสองคนรู้จักกัน คุณสมบูรณ์ พูนสุข ประธานบริษัท
อุดมสมบูรณ์ คุณสดใส สว่างจ้า ผู้จัดการบริษัทแสงสว่างเรืองรองจำกัด
   
 
  มารยาทในการสนทนา
      การสนทนาที่มีมารยาทมีหลักดังนี้ ในกรณีที่เพิ่งรู้จักกันไม่ควรถามถึงเรื่องส่วนตัว ควรเป็นทั้งผู้พูด
และผู้ฟัง ไม่พูดถึงแต่เรื่องส่วนตัวของตนเอง อย่าบ่นเรื่องเคราะห์กรรมและความต่ำต้อยของตนเอง
เพราะจะทำให้ผู้อื่นดูถูกได้ อย่าอวดร่ำรวยหรือความมีอำนาจเพราะเป็นการข่มผู้อื่น ไม่พูดถึงเรื่อง
ในครอบครัวให้ผู้อื่นฟัง ไม่ควรพูดว่าเกลียดหรือรักชอบใคร ไม่นำปมด้อยของผู้อื่นมาล้อเลียน
ไม่พูดจาสัปดนหรือลามก ไม่ตำหนิติเตียนพ่อแม่หรือผู้ที่ควรเคารพ ไม่ปฏิเสธความหวังดีของผู้รู้จัก
และไม่พูดขัดคอผู้อื่นจนเกินควร
   
 
  มารยาทในการใช้โทรศัพท์
      การใช้โทรศัพท์ถือเป็นการสื่อสารที่ใช้กันมากในทุกวันนี้ ทั้งเพื่อเรื่องส่วนตัวและเรื่องการทำงาน
ดังนั้นจึงต้องมีมารยาทในการใช้งาน เนื่องจากการใช้โทรศัพท์คู่สนทนาไม่สามารถเห็นหน้าตากันได้
ดังนั้นการใช้น้ำเสียงควรต้องมีความชัดเจน ใช้คำพูดนุ่มนวลสุภาพน่าฟัง จัดระเบียบเนื้อหาที่จะ
พูดก่อนใช้โทรศัพท์ ถ้ารับโทรศัพท์ที่ต่อผิดเข้ามาควรรับคำขอโทษโดยสุภาพและเห็นใจ ควรเริ่มต้น
ทักทายด้วยความสุภาพและเป็นมิตรไม่ว่าคู่สนทนาจะเป็นผู้อาวุโสหรือผู้น้อย ถ้าผู้ติดต่อด้วยไม่อยู่ควร
แจ้งชื่อและเบอร์โทรศัพท์เพื่อการติดต่อกลับหรือฝากข้อความไว้ หากจำเป็นต้องยุติการสนทนาควร
ขอภัยคู่สนทนาก่อน การใช้โทรศัพท์สาธารณะควรรักษาเวลาและสนทนาโดยกระชับรวบรัด
ก่อนวางสายโทรศัพท์ควรกล่าวถ้อยคำที่แสดงถึงมิตรไมตรี เช่น ขอบคุณ รู้สึกเป็นเกียรติ เป็นความกรุณา
ก่อนกล่าวคำว่าสวัสดี และควรรอให้ผู้ที่มีอาวุโสกว่าวางสายก่อน
   
 
  มารยาทเกี่ยวกับนามบัตร
      นามบัตรก็คือกระดาษรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีชื่อ ตำแหน่ง ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์และรายละเอียดของ
เจ้าของปรากฏอยู่ โดยมักจะมีอยู่ 3 รูปแบบคือ นามบัตรทางราชการ นามบัตรทางสังคม และนามบัตรธุรกิจ ซึ่งนามบัตรทางราชการและธุรกิจมักจะระบุตำแหน่งและสถานที่ทำงานกำกับไว้ด้วย แต่นามบัตรทาง
สังคมอาจระบุหรือไม่ระบุไว้ก็ได้ การใช้นามบัตรมักใช้เพื่อการแนะนำตนเอง ซึ่งเป็นการให้รายละเอียดแก่ผู้ได้รับและสามารถติดต่อกันได้ในภายหลังอีกทั้งทำให้สามารถทราบชื่อและ
นามสกุลที่ต้อง นอกจากนี้ยังมักนิยมใช้การแนบนามบัตรไปกับการให้ของขวัญเพื่อการแสดงความยินดี
ขอบคุณ อวยพร แจ้งข่าวและแสดงความเสียใจ
   
 
  มารยาทเกี่ยวกับงานเลี้ยง
     คนที่อยู่ในแวดวงสังคมส่วนใหญ่มักจะต้องเกี่ยวข้องกับงานเลี้ยงอยู่เสมอ โดยอาจจะมีความเกี่ยวข้องที่
ี่แตกต่างกันออกไป บางครั้งก็เกี่ยวข้องในฐานะเจ้าภาพ ผู้มาร่วมงาน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเรียน
รู้เกี่ยวกับมารยาทเกี่ยวกับงานเลี้ยง เพื่อให้สามารถนำไปใช้เมื่อยามที่ต้องเกี่ยวข้องได้อย่างเหมาะสม
อย่างเช่น มารยาทในการออกบัตรเชิญต้องเชิญผู้ร่วมงานทั้งสามีและภรรยาถ้าเชิญเพียงคนเดียวถือเป็น
การไม่ให้เกียรติกัน ชื่อ ยศ ตำแหน่งของผู้ถูกเชิญจะต้องเขียนให้ถูกต้องโดยระบุชื่อของสามีแล้ว
ตามด้วยภรรยา ควรเขียนชื่อหน้าซองด้วยตัวบรรจงหรือใช้พิมพ์ด้วยหมึกสีน้ำเงินหรือดำ ไม่เชิญหญิง
และชายที่ยังไม่สมรสกันด้วยบัตรเชิญเพียงใบเดียว ในบัตรเชิญควรระบุลักษณะงานและการแต่งกายไว้ด้วย
   
      ในการรับแขกที่มาร่วมงาน ควรมีการวางแผนเกี่ยวกับการจัดที่นั่งไว้ด้วยว่าจะจัดให้ใครนั่งกับใคร
หรือแขกกลุ่มใดจะนั่งบริเวณใด ควรมีการอำนวยให้กับแขกตั้งทางเข้างานจนถึงการจอดรถ
เจ้าภาพควรอยู่บริเวณทางเข้าเพื่อทักทายแขกที่มาร่วมงานและพาไปบริเวณที่นั่ง ถ้าเจ้าภาพไม่อยู่ก
็ต้องมีผู้แทนคอยทำหน้าที่แทน เมื่อแขกเกียรติยศมาถึงงานและได้เวลาก็สามารถกล่าวสุนทรพจน์
ของงานได้เลยโดยไม่ต้องรอให้แขกมาครบทั้งหมด และในการส่งแขกเจ้าภาพก็จะต้องยืนคอย
กล่าวคำขอบคุณและคำอาลาแขกอยู่บริเวณหน้างาน
   
     ผู้ที่เป็นแขกก็มีข้อควรที่ต้องปฏิบัติคือ อ่านรายละเอียดเกี่ยวงานให้เข้าใจเพื่อเตรียมความพร้อมให้ถูกต้อง
และเหมาะสมทั้งการแต่งกาย เวลา สถานที่และรูปแบบของงาน ไม่ควรพาผู้ที่ไม่ได้รับเชิญไปร่วมงานด้วย
ควรไปถึงงานก่อนงานเริ่มประมาณ 15 นาที งานบางประเภทผู้ไปร่วมงานควรมีของขวัญที่เหมาะสม
ไปร่วมงานด้วย เมื่อไปถึงงานควรพบกับเจ้าภาพหรือผู้แทนและมอบของขวัญให้โดยตรง เมื่อได้รับการแนะนำ
ให้รู้จักกับแขกอื่นๆควรมีการสนทนาปราศรัยกันตามสมควร บนโต๊ะอาหารบุรุษควรดูแลสตรีที่อยู่ด้านข้าง
ด้วยเสมอ
   
 
  ประเภทของงานเลี้ยง
     งานเลี้ยงแบบไทย ส่วนมากนิยมจัดเป็นวงรับประทานอาหารร่วมกัน มีสำรับกับข้าวอยู่กลางวง มีจานข้าว
ช้อนส้อม ผ้าเช็ดมือ และแก้วน้ำประจำตัวสำหรับแขกแต่ละคน มารยาทที่สำคัญก็คือการใช้ช้อนกลาง
ในการรับประทานอาหารร่วมกัน
   
  งานเลี้ยงสากลแบบดินเนอร์(Dinner) เป็นงานเลี้ยงแบบพิธีการ แขกจะมีการแต่งตัวอย่างสวยงาม
ผู้ร่วมงานจะมีที่นั่งเฉพาะของตน อาหารจะถูกนำมาให้ทีละอย่างพร้อมกับเครื่องดื่ม ซึ่งส่วนมากจะเป็นไวน์
   
  งานเลี้ยงสากลแบบแกรนด์ดินเนอร์(Grand Dinner) เป็นงานเลี้ยงแบบพิธีการ มีการตกแต่งสถาน
ที่สวยงาม บนโต๊ะอาหารจะมีเชิงเทียน ภาชนะใส่อาหารจะเป็นเครื่องแก้วและกระเบื้องเนื้อดีหรือเครื่องเงิน ผู้ร่วมงานจะแต่งกายหรูหราและมีที่นั่งเฉพาะของแต่ละบุคคลสลับหญิงและชายตามที่นั่ง
อาหารจะถูกนำมาบริการทีละอย่างพร้อมเครื่องดื่ม
   
  งานเลี้ยงสากลแบบแบงเควท(Banquet) เป็นงานเลี้ยงแบบแกรนด์ดินเนอร์
แต่จะมีการแสดงภายหลังจากการรับประทานอาหาร
   
  งานเลี้ยงสากลแบบบุฟเฟต์(Buffet) เป็นงานเลี้ยงที่อาหารทั้งหมดจะถูกรวมกันไว้ที่โต๊ะกลาง
โดยผู้ร่วมงานจะต้องตักอาหารนำไปรับประทานยังโต๊ะที่จัดไว้ให้ด้วยจานใบเดียว การตักอาหาร
ไม่ควรตักจนเต็มหรือล้นจาน เพราะสามารถตักอาหารเพิ่มได้หลายครั้งตามความต้องการ
   
  งานเลี้ยงสากลแบบบุฟเฟต์ดินเนอร์(Buffet Dinner) เป็นการจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟต์ แต่อุปกรณ์การ
รับประทานอาหารเช่น จาน ช้อน ซ่อม มีด แก้วน้ำจะจัดไว้ให้เฉพาะบุคคลที่โต๊ะอาหาร
   
  งานเลี้ยงสากลแบบค็อกเทล(Cocktail) เป็นงานเลี้ยงที่ไม่มีโต๊ะ เก้าอี้ สำหรับนั่งรับประทานอาหาร
โดยอาหารจะจัดเป็นชิ้นเล็กๆพอดีคำตั้งไว้ตามจุดต่าง แต่จะมีคนคอยบริการเครื่องดื่ม
งานเลี้ยงประเภทนี้มุ่งหวังให้แขกเดินพบปะและสนทนากัน จึงควรระวังการกินขณะสนทนา
ส่วนเมื่อรับประทานอาหารแล้วไม้ที่ใช้จิ้มอาหารควรทิ้งในที่ๆจัดไว้ให้ การจับแก้วน้ำควรจับตาม
ประเภทของแก้ว แก้วน้ำเย็นจับเชิงแก้วด้านบน แก้วมีก้านจับตามชนิดของเครื่องดื่ม ถ้าเป็นไวน์
์ให้จับก้านแก้ว แชมเปญใช้นิ้วก้อยและนิ้วนางจับก้านแก้วที่เหลือหุ้มเชิงแก้วด้านบน และแก้วบรั่นดี
ีใช้สองมือหุ้มเชิงแก้วบ้านบน
   
  งานเลี้ยงสากลแบบรีเซฟชั่น(Reception) เป็นงานเลี้ยงรับรองรูปแบบเป็นงานเลี้ยงค็อกเทลอย่างเดียว
อาหารจะหลากหลายและเป็นอาหารหนักกว่างานค็อกเทลทั่วไป จะมีผู้ร่วมงานค่อนข้างมากดังนั้นเมื่อ
หยิบอาหารเสร็จแล้ว ควรหลีกเพื่อให้ผู้อื่นได้หยิบอาหารบ้าง
   
  งานเลี้ยงสากลแบบซัปเปอร์(Supper) เป็นการเลี้ยงอาหารว่างหรืออาหารคาวแบบเบาๆ
ภายหลังการแสดงของงานแบงเควทเสร็จสิ้นลง มารยาทจะเหมือนกับงานเลี้ยงประเภทอื่น
   
  งานเลี้ยงสากลแบบบุฟเฟต์ที(Buffet Tea) เป็นงานเลี้ยงชาหรือกาแฟที่จัดแบบบุฟเฟต์
สิ่งที่ต้องระวังคือช้อนชามีไว้ตักและคนเท่านั้น ไม่ใช้ตักชาหรือกาแฟขึ้นกินเป็นอันขาด
การคนควรคนเบาๆเพื่อไม่ให้ชาหรือกาแฟกระฉอก แล้วนำช้อนวางไว้ที่จานรอง ไม่ควรดื่มชา
หรือกาแฟขณะมีช้อนคาอยู่ในถ้วยและไม่ควรดื่มให้เกิดเสียงดัง
   
  งานเลี้ยงสากลแบบไฮที(High Tea) เป็นงานเลี้ยงชาหรือกาแฟที่มีการจัดอุปกรณ์ไว้ที่โต๊ะ
อาหารที่นำมาบริการจะเป็นอาหารหนักที้องใช้มีดและซ่อมประกอบการรับประทาน นอกจากนี้ยังมี
การบริการเครื่องดื่มประเภท พันช์ เบียร์ วิสกี้ น้ำหวานประกอบด้วย
   
   
 
  มารยาทงานเลี้ยงอาหาร
      การรับประทานอาหารในงานเลี้ยง ในกรณีที่นั่งโต๊ะควรนั่งตัวตรงเต็มเก้าอี้ ลำตัวห่างจากโต๊ะ
ประมาณ 2 นิ้ว อาหารคาวหวานจะเข้าทางด้านซ้าย เครื่องดื่มจะเข้าด้านขวา ผ้าเช็ดมือควรคลี่ออก
แล้ววางไว้บนตัก การใช้อุปกรณ์ช้อน ซ่อม มีด แก้วน้ำ จะใช้จากด้านนอกเข้ามาหาขอบจาน
ส่วนเครื่องดื่มจะอยู่ทางด้านขวามือ การดื่มเหล้าหรือน้ำไม่ควรดื่มจนหมดแก้ว ถ้าไม่ต้องการ
เครื่องดื่มชนิดใดให้ยกมือห้ามพอเป็นที่สังเกตได้ว่าไม่ต้องริน และไม่ควรดื่มสุราให้เมาจนครองสติไม่อยู่
ควรรอให้ผู้ที่อยู่ซ้ายขวาได้รับอาหารเสียก่อนแล้วจึงเริ่มลงมือรับประทาน การรับประทานซุปต้อง
ใช้ช้อนซุปซึ่งจะวางอยู่ด้านนอกสุด เวลาตักให้ตักซุปออกจากตัวแล้วด้านข้างช้อนส่งซุปเข้าปากและ
ไม่ควรยกถ้วยซุปขึ้นดื่ม
   
      การจับช้อนส้อมไม่ควรให้ปลายโผล่ออกมาจากอุ้งมือ เมื่อใช้ซ่อมร่วมกับมีดใช้มือซ้ายจับซ่อม
และมือขวาจับมีด ส่วนอาหารที่สามารถใช้มือหยิบรับประทานได้คือ ขนมปัง ลูกกวาด
ช็อกโกแลต ถั่วทอด ข้าวเกรียบ การรับประทานขนมปังควรบิเป็นชิ้นพอดีคำมากกว่ารับประทาน
ทั้งแผ่นหรือทั้งก้อน ควรเขี่ยอาหารที่ติดช้อนส้อมออกก่อนที่วางไว้ อาหารที่ไม่ชอบรับประทาน
ควรตักไว้พอเป็นพิธีหรือถ้าไม่ตักเลยควรบอกแก่บริการให้ผ่านไป การทำผิดพลาดบนตะอาหาร
เช่น ทำน้ำหก หรือช้อนหล่น ให้สงบสำรวมไว้และปล่อยให้ เป็นหน้าที่ของบริกร ไม่ควรพูดเมื่อ
มีอาหารเต็มปาก ไม่บ้วน คาย หรือถ่มอาหารออกจากปาก แต่ถ้าจำเป็นให้กระดาษทิชชู่ห่อไว้
้แล้ววางไว้ใต้ขอบจาน เมื่อเวลาตักอาหารด้วยช้อนกลางเสร็จควรวางให้ด้ามช้อนหัน
ไปทางผู้อื่นเสมอ ไม่ใช้ช้อนส้อมของตนตักหรือแบ่งอาหารให้ผู้อื่น การลุกจากโต๊ะอาหาร
ให้วางผ้าเช็ดมือไว้ข้างจาน
   
 
  มารยาทในที่ประชุมชน
     ที่ประชุมชนคือที่ๆมีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมากด้วยจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง อาจเป็นการประชุม
การชมกีฬา การแสดงต่างๆรวมถึงงานมงคลและงานอวมงคล การที่คนมาอยู่รวมกันมากๆ จึงต้องมีกฏ กติกา ระเบียบต่างๆในการปฏิบัติต่อกัน ในที่นี้ก็คือมารยาท
   
      การประชุม ในการประชุมทุกครั้งย่อมมีการนัดหมายกันเป็นล่วงหน้า ผุ้เข้าประชุมจึงควรศึกษา
หัวข้อก่อนการประชุมมาบ้าง และควรต้องมีความตรงต่อเวลาการประชุมเข้าประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน
เพื่อให้ครบองค์ประชุม นอกจากนี้ผู้เข้าประชุมควรมีสมาธิ ตั้งใจฟังผู้อื่น และแสดงความคิดเห็นเมื่อเกี่ยวข้องกับตนบางครั้งการประชุมจะมีการโต้เถียงและขัดแย้งกัน
ผู้เข้าประชุมไม่ควรใช้อารมณ์พูดจากันด้วยเหตุผลเมื่อสิ้นสุดการประชุมไม่ควรนำเรื่องที่ประชุม
ไปพูดข้างนอก ควรพูดจาและหาข้อยุติในห้องประชุมให้เสร็จสิ้น
   
  การชมการแสดงต่างๆ การเข้าชมการแสดงต่างๆควรมีระเบียบตั้งแต่การเข้าแถวซื้อบัตรและการเข้าชมการ
แสดงตามลำดับก่อนหลัง ไม่ควรยืนบังหรือเคลื่อนไหวให้รบกวนผู้อื่น ควบคุมการใช้เสียงไม่ให้รบกวนและ
สร้างความรำคาญให้แก่ผู้อื่น อีกทั้งรู้จักควบคุมอารมณ์รู้จักการแพ้ชนะเพื่อป้องการมีเรื่องที่รุนแรง
สำหรับการชมภาพยนตร์ก็ไม่ควรเล่าเรื่องหรือวิจารณ์เกี่ยวกับภาพยนตร์ ไม่ควรรับประทานขนมที่มี
เสียงดังและส่งกลิ่นรบกวนผู้อื่น และที่สำคัญควรยืนตรงแสดงความเคารพเมื่อ
ได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี
   
  งานมงคลและอวมงคล ในบรรดางานเลี้ยงทั้งหลายที่เรียกว่างานมงคลก็ได้แก่ งานวันเกิด งานบวช
งานแต่งงานงานขึ้นบ้านใหม่ งานฉลองโอกาสต่างๆ ส่วนงานอวมงคลก็มีเพียงงานเดียวคืองานศพ
งานมงคลนั้นเป็นงานที่แสดงถึงความสุข เพราะฉะนั้นการแต่งกายจึงควรเลือกให้เหมาะสม
เลือกชุดที่สดใสมีสีสันหรือแต่งกายตามที่กำหนดไว้ในบัตรเชิญเมื่อไปถึงงานก็ควรพบกับเจ้าภาพ
เพื่อสนทนาแสดงความยินดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานสมรสและงานฉลองอายุจากนั้นจึงไปร่วม
วงสนทนากับแขกอื่นๆ สำหรับงานอวมงคลหรืองานศพนั้นเป็นงานแห่งความโศกเศร้า ผู้เป็นแขกต้องแต่งกายด้วยชุดสีขาวหรือดำ ไม่แต่งกายเปิดเผยจนเกินไป และพึงระลึกเสมอว่า
งานศพไม่ใช่งานชุมนุมศิษย์เก่าหรือพบปะสังสรรค์ดังนั้นการสนทนาจึงต้องมีความสำรวม
   
 
 
 
 
 
 
 
 
 
     
 
บทนำ Iบทที่ 1 I บทที่ 2 I บทที่ 3 I บทที่ 4 I บทที่ 5 I บทที่ 6 I บทสรุป
กลับไปหน้าแรก I แนะนำรายวิชา I วิธีการเรียน I กิจกรรมการเรียน I แบบฝึกหัด I ติดต่อผู้สอน